ฮาร์ดดิสก์เป็นอุปกรณ์ที่เป็นส่วนประกอบภายในเครื่องไมโครคอมพิวเตอรที่มีส่วนสำคัญมากเพราะเป็นที่เก็บข้อมูลต่างๆเก็บโปรแกรมในการจัดระบบคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะระบบจัดการ MS-DOS หรือระบบจัดการ WINDOWS 95 แต่ก่อนฮาร์ดดิสก์มีราคาแพงมากและความจุก็มีเพียงไม่มากนัก จึงมีผู้คิดค้นโปรแกรม ย่อข้อมูลให้เล็กลงในฮาร์ดดิสก์ให้ได้มากๆ ต่อมาเทคโนโลยีของฮาร์ดดิสก์พัฒนาไปเป็นอันมากจนสามารถมีความจุมากกว่า 4กิกะไบต์ ในปัจจุบันราคาฮาร์ดดิสก์ก็ถูกลงมากโดยคงราคาไว้ที่ประมาณ 7000 บาทต่อความจุ 2 กิกะไบต์ โปรแกรมย่อข้อมูลจึงไม่ค่อยมีผู้นิยม ใช้เพราะมีปัญหา ในการคงสภาพของข้อมูลฮาร์ดดิสก์ที่ใช้มีหลากหลายยี่ห้อโดยทั่วไปจะนิยมใช้ยี่ห้อ Seagate,maxtor และ conner ซึ่งจะเป็นยี่ห้อไหนไม่สำคัญ สำคัญที่ว่าเวลาซื้อมาแล้วคู่มือของฮาร์ดดิสก์ ์ท่านจะต้องขอทางร้านมาด้วย เพราะเวลาฮาร์ดดิสก์ขัดข้องท่าน สามารถที่จะทราบรายละเอียดต่างๆ เพื่อดำเนินการ แก้ไขต่อไป ฮาร์ดิสค์ซึ่งเป็นที่นิยมใช้ส่วนใหญ่จะเป็นอินเตอร์เฟสแบบ IDE เพราะราคาไม่แพง อีกทั้งปัจจุบันมีการพัฒนาให้ฮาร์ดดิสค์ IDE มีความเร็วเพิ่มมากขึ้นโดยออกมาเป็นแบบ Ultra DMA สามารถ รับส่งข้อมูลได้ด้วยอัตราความเร็ว 33 MB/s ความจุทีมีผู้ใช้ส่วนใหญ่ มักจะซื้อในขณะนี้ คือ 2 GB ขึ้นไปเพราะราคาไม่แพง ส่วนฮาร์ดดิสค์ความจุที่ต่ำกว่านี้ถือว่าค่อนข้างตกรุ่นแล้ว และผู้ขายก็มีแนวโน้มที่จะไม่นำ เข้ามาจำหน่าย สำหรับฮาร์ดดิสค์ SCSI อาจจะค่อนข้างแพงเมื่อเทียบกับฮาร์ดดิสค์ความจุที่เท่ากันของ IDE ดังนั้น ฮาร์ดดิสค์ IDE จึงเหมาะกับผู้ใช้ ้โดยทั่วไป ถ้าดูราคา ฮาร์ดดิสต์ยี่ห้อต่างๆ จะพบว่าปัจจุบันผู้ขายในบ้านเรามีกจะจำหน่ายฮาร์ดดิสค์รุ่นต่ำสุดความจุ 2.1 GB ขึ้นไป และมีบางยี่ห้อที่ จำหน่ายฮาร์ดดิสค์ความจุ 3.2 GB ขึ้นไปแล้ว ราคาก็จะแตกต่างกันไปในแต่ละยี่ห้อชึ้นอยู่กับสเปกของฮาร์ดดิสค์ เช่น ความจุความเร็วรอบ ความเร็ว ในการค้นหาถ้าเป็นฮาร์ดดิสค์ IDE ความจะ 2.1 GB ราคาโดยส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 6000 บาท สำหรับความจุ 4.3 GB ราคาจะประมาณ 7000 ถึง 8000 กว่าบาท ซึ่งปัจจุบันจะเป็นฮาร์ดดิสค IDE แบบ Ultra DMA หรือ Ultra ATA กันหมดแล้ว และฮาร์ดดิสค์ IDE ยังมีความจุที่ ่มากขึ้นกว่าเดิมให้ผู้ใช้สามารถเลือกใช้ได้ โดยขณะนี้มีถึงความจุ 11.5 GB ซึ่งเป้นฮาร์ดดิสค์ของ Maxtor รุ่น DiamondMax นับได้ว่าฮาร์ดดิสค์ IDE ได้พัฒนาความจุขึ้นไปได้มากใกล้เคยงกับฮาร์ดดิสค์ SCSI เลยทีเดียวแต่ความเร็วยังเป็นรอง SCSI สิ่งที่สำคัญที่คุณคำนึงถึงในการเลือกซื้อฮาร์ดดิสก์
ฮาร์ดดิสก์ความจุขนาด 2.1 GB เหมาะสมที่สุดในการเลือกซื้อขณะนี้ เพื่อใช้ในการเก็บข้อมูล และซอฟต์แวร์ต่างๆ ทั่วๆไปทุกชนิด เป็นฮาร์ดดิสก์ที่มีราคาต่อขนาดความจุคุ้มค่า ถึงแม้จะมีราคาต่อขนาดความจุไม่ต่ำที่สุดเหมือน ฮาร์ดดิสก์ที่มีขนาด ใหญ่มากพอฮาร์ดดิสก์ความจุขนาดนี้จึงเหมาะสมที่สุดที่จะเลือกซื้อในปัจจุบัน สำหรับผู้ใช้ในระดับมืออาชีพ ความจุขนาด 2.1 GB อาจจะต่ำเกินไป เพราะข้อมูลที่เก็บลงในฮาร์ดดิสก์นอกจากจะเก็บซอฟต์แวร์โปรแกรมต่างๆแล้ว ยังต้องใช้ในการเก็บงานต่างๆ ขนาดใหญ่จำนวนมากอีกด้วย เช่นไฟล์ข้อมูลมัลติมิเดียทั้งแบบภาพนิ่ง และแบบเคลื่อนไหว รวมทั้งแบบ 2 มิติ และ 3 มิติขนาดใหญ่หรือข้อมูลจำพวกไฟล์เสียงขนาดใหญ่ๆดังนั้นขนาดความจุอย่างน้อย 3.2 GB หรือมากกว่าจะเหมาะสมกว่าที่จะเลือกซื้อ เพราะจะมีราคาต่อขนาดความจุต่ำมากกว่า
อินเตอร์เฟสฮาร์ดิสก์ในปัจจุบันมีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิด คืออินเตอร์เฟสฮาร์ดดิสก์แบบ E-IDE และแบบ SCSI อินเตอร์เฟสฮาร์ดดิสก์แบบ E-IDE จะมีทั้งแบบ PIO Mode 0(3.3MB/s),1(5.2MB/s),2(8.3MB/s),3(11.1MB/s)และ 4(16.6MB/s)หรือแบบ Single Word DMA 0 (2.1MB/s),Single Word DMA 1 หรือ Multi Word DMA 0(4.2MB/s),Single Word DMA 2 (8.3MB/s),Multi Word DMA 1(13.3MB/s), Multi Word DMA 2 (16.6MB/s) และ Multi Word DMA 3 หรือ Ultra DMA/33(33.3MB/s) ซึ่งอินเตอร์เฟสที่ควร ซื้อควรจะไม่ต่ำกว่าแบบ PIO Mode 4 หรือแบบ Multi Word DMA ส่วนอินเตอร์เฟสแบบ SCSI นั้นอยู่ด้วยกันหลายแบบทั้งแบบ SCSI-1(5MB/s),Fast SCSI หรือ SCSI-2 (10MB/s),Fast-20(20MB/s),Fast Wide SCSI-2 หรือ Wide SCSI-2 หรือUltra SCSI หรือ SCSI-3 หรือ Fast-40(40MB/s),Ultra Fast SCSI หรือ Ultra Wide SCSI หรือ Ultra-2 SCSI(80MB/s)เหมาะสำหรับ การฮาร์ดิสก์ประสิทธิภาพ สูงสุดจริงๆถึงแม้ฮาร์ดดิสก์ชนิดนี้จะมีความเร็วสูงกว่าฮาร์ดดิสก์ที่ใช้อินเตอร์เฟสแบบ EIDE ไม่มากนัก แต่ฮาร์ดดิสก์ชนิดนี้จะมีความ สามารถในการทำงานแบบมัลติทาส์กกิ้ง หรือสามารถทำงานหลายๆงานพร้อมกันได้พีมากกว่าฮาร์ดดิสก์แบบ E-IDE เหมาะสำหรับใช้งาน หนักๆหรืองานระดับมืออาชีพ เช่น ใช้ในงานแก้ไขตกแต่ง หรืออกแบบภาพกราฟิกขนาดใหญ่มากๆหรือใช้ในเครื่อง Five Server ซึ่งฮาร์ดดิสก์ต้องทำงานเกือบจะตลอดเวลา แต่ราคาของมันก็จะสูงกว่าฮาร์ดดิสก์แบบ EIDE อย่างน้อยประมาณ 4 พันบาท
ฮาร์ดดิสก์ในปัจจุบันที่ควรเลือกซื้อ ควรมีความเร็วในการเข้าถึงข้อมูลไม่สูงกว่า 12 ms เพราะฮาร์ดดิสก์มีความเร็วใน การเข้าถึงข้อมูลสูงกว่านี้ ประสิทธิภาพโดยรวมจะช้าเกินไปไม่เหมาะกับซอฟต์แวร์ขนาดใหญ่ในปัจจุบัน สำหรับฮาร์ดดิสก์ที่ใช้อิน เตอร์เฟสแบบ SCSI นั้นก็ควรจะมีความเร็วในการเข้าถึงข้อมูลไม่สูงกว่า 9 ms เพราะถ้าสูงกว่านั้ความเร็วที่ทำได้จะไม่สูงเท่าที่ควร ไม่คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป
ความเร็วในการหมุนแผ่นจานแม่เหล็กของฮาร์ดดิสก์นั้นจะมีผลโดยตรงกับประสิทธิภาพโดยรวมของฮาร์ดดิสก์ เพราะถ้าฮาร์ดดิสก์มีความเร็วในการหมุนแผ่นจานแม่เหล็๋กสูง จะทำให้ความเร็วในการเข้าถึงข้อมูล ความเร็วในการเลื่อนหัวอ่าน ไปยังแทรคของข้อมูลสูงมากขึ้น ซึ่งมาตรฐานความเร็วในการหมุนแผ่นจานแม่เหล็กสำหรับฮาร์ดดิสก์แบบ E-IDE ในปัจจุบันอยู่ที่ 4500 รอบต่อวินาที ซึ่งไม่ควรต่ำกว่านี้เพราะจะทำให้ฮาร์ดดิสก์ทำงานช้าเกินไป ในฮาร์ดดิสก์ที่ใช้อินเตอร์เฟสแบบ Ultra DMA/33 นั้นส่วนใหญ่แล้วจะมีความเร็วในการหมุนแผ่นจานแม่เหล็กเกิน 4500 รอบต่อวินาทีอยู่แล้ว แต่จะให้ดีควรอยู่ในระดับ 5400 รอบ ต่อวินาที หรือสูงกว่าจะดีกว่า และเร็วกว่า สำหรับฮาร์ดดิสก์ที่ใช้อินเตอร์เฟสแบบ SCSI นั้น ควรจะมีความเร็วในการหมุนแผ่นจานแม่เหล็กไม่ต่ำกว่า 7500 รอบต่อวินาที ซึ่งจะทำให้ความเร็วในการทำงานของฮาร์ดดิสก์มีประสิทธิภาพสูงตามที่ควรจะเป็น
ขนาดของหน่วยความจำบัฟเฟอร์จะมีผลโดยตรงกับความเร็วในการส่งผ่านไฟล์ข้อมูลขนาดใหญ่ ถ้าหน่วยความจำบัฟเฟอร์ยิ่งมีขนาดใหญ่ยิ่งจะทำให้ความเร็วในการส่งผ่านไฟล์ข้อมูลขนาดใหญ่การเล่นไฟล์ภาพวีดีโอ การเปิด และเซฟไฟล์กราฟิกขนาดใหญ่ หรือการเล่นไฟล์เสียงขนาดใหญ่เป้นต้น ซึ่งมาตรฐานในปัจจุบันจะอยู่ที่ 64 KB แต่ถ้าจะให้ดีควร มีขนาดอย่างน้อยประมาณ 128 KB จะดีกว่าเพราะไฟล์ข้อมูลในปัจจุบันเริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ สำหรับงานใน ระดับมืออาชีพควรจะมีหน่วยความจำบัฟเฟอร์อย่างน้อย 128 KB จะดีกว่า เพราะไฟล์ข้อมูลมักจะมีขนาดใหญ่อยู่แล้ว การมีหน่วยความจำบัฟเฟอร์ขนาดใหญ่ยิ่งจะทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมของระบบทำงานเร็วขึ้น